
ไข่ดิบ ถ้าจะให้นึกถึงวัตถุดิบที่ให้โปรตีนสูง ราคาไม่แพง แถมนำมาทำอาหารได้หลากหลายเมนู เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง ไข่ แน่นอน โดยคนปกติทั่วไป เวลารับประทานไข่ก็จะมีการปรุงให้สุกเพื่อให้ถูกสุขลักษณะ ช่วยเพิ่มรสชาติให้มีความอร่อยมากขึ้น แต่สำหรับบรรดานักเพาะกาย หรือหมู่คนเล่นกีฬา มักคิดว่าการรับประทานไข่ดิบ เพราะคิดว่าร่างกายจะได้รับสารอาหารที่รวดเร็ว และช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้ดีกว่า แต่แท้จริงแล้ว การทานไข่ดิบอาจเสี่ยงอาหารเป็นพิษได้
ไขข้อสงสัยทำไมกิน ไข่ดิบ ถึงเสี่ยงอาหารเป็นพิษ

สาเหตุที่กินไข่ดิบแล้วเสี่ยงอาหารเป็นพิษ เพราะการกินไข่ดิบอาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงครึ่งเดียว เนื่องจากในไข่ดิบมีโปรตีนที่เป็นปฏิชีวนะอยู่ หากคุณกินไข่ดิบบ่อยๆ โปรตีนชนิดปฏิชีวนะที่สะสมอยู่ในร่างกาย จะขัดขวางไม่ให้ร่างกายได้รับวิตามินบี 1 ที่มีส่วนช่วยบำรุงประสาทและสมอง นอกจากนั้นยังเกิดความเสี่ยงอย่างมาก หากไข่ของไก่ที่คุณกินเข้าไปเป็นโรค ไข่ก็จะมีโรคตามมาด้วย ส่งผลให้ผู้ที่กินไข่ดิบติดโรคได้เช่นกัน ซึ่งเชื้อที่มีความอันตราย เสี่ยงทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการท้องเสีย, อาเจียน, คลื่นไส้ และบางรายอาจเสียชีวิตได้ คือเชื้อ“ซัลโมเนลลา”
เชื้อซัลโมเนลลาใน ไข่ดิบ คืออะไร

เชื้อซัลโมเนลลา (Salmonella) เป็นแบคทีเรียที่มีลักษณะรูปท่อน มีความสามารถในการทนความร้อน แต่ขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อ รวมไปถึงสายพันธุ์และสิ่งแวดล้อมที่มันอาศัยอยู่ โดยเชื้อซัลโมเนลลา สามารถติดจากสัตว์มาสู่คนได้ ซึ่งผ่านการปนเปื้อนจากอาหาร และบางครั้งอาจเกิดจากสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ตามบ้านเรือน หากใครที่รับประทานอาหารโดยที่ไม่ล้างมือ หรือมีการสัมผัสสัตว์เลี้ยงอยู่บ่อยครั้ง อาจมีความเสี่ยงในการติดเชื้อนี้ได้
อีกทั้งซัลโมเนลลา ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง โดยความอันตรายของเชื้อตัวนี้ คือเชื้อโรคจะแพร่กระจายเข้าสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย หากได้รับการรักษาที่ช้าเกินไป จะส่งผลให้เกิดอาการเลือดออกในลำไส้เล็ก และลำไส้ทะลุ นอกจากนี้เชื้อ ซัลโมเนลลา ยังทำให้คุณเกิดเป็นโรคอื่นๆ เช่น ลำไส้อักเสบ, กระเพาะอาหารอักเสบ, โลหิตเป็นพิษ เป็นต้น ดังนั้นคุณจึงต้องรับประทานไข่ที่เกิดจากปรุงสุกเท่านั้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อชนิดนี้ได้
ไข่ดิบ ให้โทษกับร่างกายอย่างไร

แม้หลายคนจะทราบว่า การปรุงอาหารให้สุข คือวิธีที่สามารถฆ่าเชื้อโรคและทำให้ร่างกายของคุณได้รับสารอาหารครบถ้วน แต่ก็มีคนจำนวนมากที่เชื่อว่าการทานไข่ดิบให้ประโยชน์กับร่างกายได้มากกว่า อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศได้ ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ เป็นความเชื่อที่ผิด! เราจึงนำโทษของการทานไข่ดิบ มาบอกทุกคนให้ได้ทราบกันดังนี้
- ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ว่าการทานไข่ดิบจะทำให้คุณได้รับสารอาหารเพียงครึ่งเดียว เพราะในไข่ดิบมีโปรตีนที่เป็นปฏิชีวนะ นอกจากนี้ในไข่ดิบยังมีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “สารอะวิดิน” ซึ่งสารนี้จะอยู่ในไข่ขาว เมื่อคุณรับประทานเข้าไป สารอะวิดินจะเข้าไปจับกับไบโอติน ซึ่งเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทำให้คุณสูญเสียวิตามินในส่วนนี้ไป แต่หากคุณนำไข่ไปประกอบอาหารตามสุขลักษณะ สารอะวิดินจะถูกทำลายจากความร้อน ช่วยให้คุณได้รับประโยชน์จากไข่ไปเต็มๆ
- ดูดซึมสารอาหารได้ยาก
ไข่ดิบเมื่อตอกออกมา จะมีลักษณะเป็นของหลวง เมื่อคุณทานเข้าไป ไข่ดิบจะเคลื่อนที่ผ่านกระเพาะอาหารและลำไส้ไปอย่างรวดเร็ว จนร่างกายของคุณไม่สามารถดูดซึมอาหารได้ทัน ทำให้ความเชื่อที่ว่าการทานไข่ดิบจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่เร็วกว่า ถือว่าผิด นอกจากนี้ไข่ดิบยังรบกวนการทำงานของกระเพาะอาหารอีกด้วย
- เสี่ยงติดเชื้อโรคที่มาจากไข่
อย่างที่กล่าวในข้างต้น ว่าการทานไข่ดิบ จากไก่ที่มีเชื้อโรค อาจเสี่ยงให้คุณได้รับเชื้อไปเช่นกัน ทั้งเชื้อซัลโมเนลลา, อีโคไลที่ทำให้ระบบทางเดินอาหารของคุณทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือร้ายแรงกว่านั้นไข่อาจเป็นพาหะของไวรัสไข้หวัดนก ส่งผลให้ร่างกายของคุณป่วยหนัก และเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้
- ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร
สารอะวิดินที่อยู่ใรไข่ดิบ หากร่างกายได้รับในปริมาณมากๆ ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อร่างกาย คือทำให้คุณรู้สึกเบื่ออาหาร ร่างกายเริ่มอ่อนเพลียง่าย ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ หรือร้ายแรงกว่านั้นอาจมีเชื้อโรคอันตรายที่ทำให้ตับและเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้อีกด้วย
- ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ
เชื้อแบคทีเรียที่พบได้บ่อยในไข่ดิบ คือเชื้อซัลโมเนลลา เป็นเชื้อที่ทำให้ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้ หรือหากได้รับเชื้อมากก็อาจมีอาการอาหารเป็นพิษได้ ดังนั้นจึงควรนำไข่ไปประกอบอาหาร หรือปรุงสุกทุกครั้งก่อนรับประทาน
- ลดการดูดซึมของวิตามินบี2
การรับประทานไข่ขาวดิบ นอกจากจะเสี่ยงทำให้ร่างกายขาดสารอาหารแล้ว ยังลดการดูดซึมของวิตามินบี 2 ที่มีส่วนในการบำรุงร่างกายและช่วยในกระบวนการสร้างการเจริญเติบโตและการเจริญพันธุ์ นอกจากนี้การทานไข่ดิบ ยังทำให้อาหารไม่ย่อย เนื่องจากภายในไข่ขาวทั้งหมด มีสารอัลบูมิน หากไม่ผ่านการปรุงสุก เมื่อทานเข้าไป จะมีปัญหาเรื่องลำไส้ อาหารไม่ย่อย ยิ่งถ้าเป็นผู้สูงอายุ จะไม่มีน้ำย่อยออกมาย่อยสารอัลบูมิน ส่งผลให้ร่างกายเกิดความอ่อนแอได้
ประโยชน์ของ ไข่ดิบ คืออะไร

แพทย์ส่วนใหญ่ ให้คำแนะนำกับเรื่องนี้ว่า ไข่ดิบให้โทษมากกว่าประโยชน์อย่างมาก ดังนั้นการเลือกรับประทานไข่แบบปรุงสุก จะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารและประโยชน์ที่เยอะกว่า แต่หากนำไข่ดิบมาใช้กับเรื่องความสวย ความงาม ถือว่าเหมาะอย่างมาก เพราะไข่ดิบนั้นสามารถนำมาดูแลผิวหน้าทำมาร์คพอกหน้าได้หลายสูตร ช่วยให้หน้าของคุณไร้สิวมากวนใจ และช่วยให้ผิวหน้าตึงกระชับเหมือนผิวเด็ก อีกทั้งยังช่วยลดฝ้า กระ และจุดด่างดำ นอกจากนี้ไข่ดิบยังสามารถนำมาหมักผมได้อีกด้วย ช่วยให้ผมนุ่มสลวย ผมดกเงางาม รากผมแข็งแรง
ไข่ดิบ แบบไหนไม่เสี่ยงอันตราย

เชื่อว่าหลายคนเริ่มสงสัย ว่าทำไมชาวญี่ปุ่น หรือคนต่างประเทศสามารถรับประทานไข่ดิบได้ โดยไม่เสี่ยงอันตรายใดๆ แท้จริงแล้วที่คนญี่ปุ่นรับประทานไข่ดิบได้ เป็นเพราะวัฒนธรรมของพวกเขา นิยมตอกไข่ดิบลงไปในอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ ความร้อนของอาหารยังคงอยู่ ทำให้ไข่ขาวและไข่แดง มีความสุกๆ ดิบๆ คล้ายโจ๊กของบ้านเรา ซึ่งแพทย์ได้ให้ข้อมูลว่า เชื้อโรคมักอยู่ตามไข่ขาว หากไข่โดนความร้อนแล้วเปลี่ยนเป็นสีขุ่น ก็สามารถรับประทานได้ตามปกติ ไม่เกิดความเสี่ยงอย่างแน่นอน
วิธีป้องกันอาหารเป็นพิษ

เนื่องจากการกินไข่ดิบจะนำมาซึ่งโทษต่อร่างกาย โดยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษได้ง่าย ดังนั้น เราจึงนำวิธีการดูแลสุขภาพของตนเองเพื่อป้องกันการเกิดอาหารเป็นพิษมาฝาก ซึ่งไม่ได้จำเพาะเจาะจงแต่เรื่องการกินไข่ดิบแต่เพียงเท่านั้น เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ ก็ควรจะต้องใส่ใจดูแลเพื่อให้เป็นไปตามหลักสุขอนามัยอยู่เสมอเช่นกันนั่นเอง โดยคุณสามารถปฏิบัติได้ดังนี้ค่ะ
- ดื่มน้ำสะอาด
ทุกคนควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 6-7 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างไหลลื่น อีกทั้งควรเลือกดื่มน้ำสะอาด หรือน้ำต้มสุก เพื่อปราศจากเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมา
- กินอาหารสดใหม่
โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนหรือช่วงอากาศร้อนย่อมทำให้เชื้อโรคเติบโตได้อย่างดี ดังนั้นต้องเลือกทานอาหารที่สด สะอาด มีการปรุงสุกใหม่ทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการทานอาหารหมักดอง หรืออาหารที่ถูกวางทิ้งไว้โดยไม่มีอะไรครอบ เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากแมลงต่างๆ
- ล้างมือให้สะอาดก่อนกินอาหาร
เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนเริ่มล้างมือกันบ่อยขึ้น เพื่อป้องกันตัวเองจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะการล้างมือยังช่วยป้องกันเชื้อโรคต่างๆ ทางที่ดีควรล้างมือทุกครั้งก่อนทานอาหาร
- อย่าเสี่ยงกินอาหารค้างในตู้เย็น
เพราะบางครั้งคุณอาจหลงลืมไปว่า อาหารที่คุณซื้อมาแล้วแช่ในตู้เย็น มีวันหมดอายุเมื่อไหร่ หากคุณไม่แน่ใจอย่าเสี่ยงทานเด็ดขาด เพราะอาจทำให้คุณเสี่ยงอาหารเป็นพิษได้
- ไม่ละลายของสดด้วยการตั้งทิ้งไว้
เชื่อว่าหลายๆ บ้านต้องเคยละลายอาหารสดด้วยการแช่น้ำ หรือตั้งทิ้งไว้ เพราะคิดว่าเป็นวิธีที่ง่ายและถูกต้อง แต่ความจริงวิธีเหล่านี้เป็นการเพิ่มปริมาณของเชื้อโรคจากอุณหภูมิที่เหมาะการเจริญเติบโตของเชื้อได้ ดังนั้นควรนำอาหารมาละลายด้วยไมโครเวฟดีที่สุด
จะเห็นได้ว่าการกินไข่ดิบ ย่อมเสี่ยงทำให้ร่างกายของคุณได้รับโทษมากกว่าประโยชน์อย่างแน่นอน ดังนั้น ใครที่ชอบกินไข่ดิบเป็นประจำจากนี้ไปก็คงต้องคิดทบทวนใหม่เพื่อให้ตนเองได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงในระยะยาวต่อไปและไม่ว่าจะเป็นอาหารอะไร ก็ควรเลือกทานแบบปรุงสุข ถูกสุขอนามัย เพื่อช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ และลดความเสี่ยงที่เชื้อโรคและไวรัสต่างๆ จะเล็ดลอดเข้าสู่ร่างกายจนก่อให้เกิดการเจ็บป่วยตามมานั่นเอง
One Response