ขิง

“ขิง” สมุนไพรไทยคู่ครัวที่สามารถหาได้ง่าย นอกจากใช้ประกอบอาหารแล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้อีกด้วย อีกทั้งยังนิยมนำไปต้ม หรือสกัดเป็น “น้ำขิง” สำหรับดื่มเพื่อสุขภาพ ประโยชน์ของน้ำขิงสามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้ อีกทั้งยังมีสรรพคุณดีๆ อีกมากมายที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน ติดตามได้จากบทความนี้

นับตั้งแต่มีการระบาดของ COVID-19 ตั้งแต่ระลอกที่ 1 จนถึงปัจจุบันที่ไทยเข้าสู่การระบาดระลอกที่ 5 จากเชื้อสายพันธุ์ใหม่อย่างโอไมครอนที่ทุกคนรู้จักกันดีอยู่ตอนนี้ ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันยังคงพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะโควิดสายพันธุ์โอไมครอนสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้อาการจะไม่รุนแรงเท่าสายพันธุ์อื่นๆ แต่คงไม่ใช่เรื่องดีแน่หากเราได้รับเชื้อ

หลายๆ คนจึงพยายามดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดเพื่อลดความเสี่ยงในการติดและแพร่เชื้อ หรือหาสิ่งที่ช่วยบรรเทาความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาหลายๆ คนเองก็เลือกใช้สมุนไพรไทยเป็นหนึ่งทางเลือกในการช่วยป้องกัน และเสริมภูมิต้านทานร่างกายให้แข็งแรง เพื่อที่จะต่อสู้กับเชื้อโควิด-19 โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า ขิง เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรที่มีคุณค่าต่อการนำมาดูแลสุขภาพ 

10 ประโยชน์ของน้ำขิง สมุนไพรใกล้ตัว สรรพคุณดีๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

ขิง

ประโยชน์ของน้ำขิงอุดมไปด้วยคุณค่าของวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ, วิตามินบี 1, วิตามินบี 2, วิตามินซี, ธาตุฟอสฟอรัส, ธาตุแคลเซียม เป็นต้น ในปัจจุบัน “ขิง” ถูกนำมาสกัดเป็นเครื่องดื่มสำเร็จรูปสำหรับดื่มได้อย่างสะดวก บางคนก็อาจนำขิงมาต้มเป็นเมนูน้ำขิงร้อนๆ เพื่อสุขภาพ แต่หากใครไม่ชอบกลิ่นสมุนไพรฉุนๆ ก็สามารถนำไปผสมกับน้ำผึ้งเพิ่มรสชาติหอมหวานก็ได้เช่นกัน ซึ่งประโยชน์ของการดื่มน้ำขิงผสมน้ำผึ้งจะช่วยบำรุงลำไส้ และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณด้านอื่นๆ ที่มีผลดีต่อร่างกายอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น 

1. กระตุ้นระบบย่อยอาหาร
น้ำขิงร้อนๆ จะมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นระบบการย่อย บรรเทาอาการระคายเคืองในกระเพาะอาหาร หากใครมีอาการอาหารไม่ย่อย รู้สึกจุกเสียดท้อง แน่นเฟ้อ หรือท้องอืด สามารถกินน้ำขิงเพื่อช่วยบรรเทาได้

2. ยับยั้งการเติบโตของเชื้อโรค
ในน้ำขิงมีสารที่เรียกว่า “จิงเกอร์รอล” (Gingerol) ทำหน้าที่ช่วยยับยั้งการเติบโตของพยาธิและแบคทีเรีย ช่วยลดโอกาสติดเชื้อในลำไส้ อีกทั้งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้อีกด้วย

3. ลดอาการอักเสบ
สารต้านอนุมูลอิสระในน้ำขิงนอกจากช่วยชะลอวัยแล้ว ยังสามารถลดอาการอักเสบภายในส่วนต่างๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ผลขิงสดๆ ตำจนละเอียด แล้วนำไปพอกบาดแผล จะยังช่วยยับยั้งไม่ให้แผลอักเสบและเป็นหนอง 

4. ลดความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง
เนื่องจากน้ำขิงมีสรรพคุณลดอาการอักเสบของเซลล์ต่างๆ จึงทำให้มีคุณสมบัติช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในร่างกาย และลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย

5. ลดอาการปวดประจำเดือน
ผู้หญิงที่มักประสบปัญหาปวดท้องประจำเดือน ปวดเมื่อยตัว และรู้สึกอ่อนเพลีย สามารถดื่มน้ำขิงเพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้ได้ รวมถึงลดอาการท้องเสียในช่วงที่มีประจำเดือน

6. ลดน้ำหนัก
น้ำขิงยังมีสรรพคุณช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ ในกลุ่มคนรักสุขภาพจึงนิยมดื่มน้ำขิงร้อนๆ และควบคุมอาหาร เพื่อช่วยลดน้ำหนักนั่นเอง 

7. บำรุงฟันและช่องปาก
การดื่มน้ำขิงจะช่วยกำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ หินปูน และโรคเหงือก อีกทั้งยังช่วยบำรุงฟันอีกด้วย หากใครปวดฟันให้นำขิงแก่มาบดเป็นผง พอกบริเวณที่ปวดฟันได้เช่นกัน

8. แก้วิงเวียนศีรษะ
การดื่มน้ำขิงเป็นประจำทุกวัน จะช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานปกติ หากกินอาหารแสลง หรือได้รับสารเคมีบางชนิดจนรู้สึกวิงเวียนศีรษะและคลื่นไส้อยากอาเจียน น้ำขิงก็จะช่วยบรรเทาอาการเหล่านี้ได้

9. แก้ปวดศีรษะและไมเกรน
สารจิงเกอร์รอล (Gingerol) ในขิง มีฤทธิ์ที่ช่วยลดความปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ และหากรู้สึกปวดศีรษะจากไมเกรน ก็สามารถดื่มน้ำขิงเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดให้ลดน้อยลงได้

10. ช่วยแก้หวัด
ไอระเหยจากน้ำขิงร้อนๆ ช่วยแก้หวัดและอาการคัดจมูกได้ ทำให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น หากไอและมีเสมหะ การจิบน้ำขิงจะช่วยลดอาการไอและเจ็บคอ

ประโยชน์ของน้ำขิงมีคุณค่ามากกว่าที่คิด อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรใกล้ตัวที่หาดื่มได้ง่าย ราคาไม่แพง และยังอุดมไปด้วยสรรพคุณดีๆ จากธรรมชาติ โดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี เรียกว่ากลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนรักสุขภาพเลยทีเดียว

ประโยชน์ของ “ขิง” สมุนไพรไทย เสริมภูมิคุ้มกันโรค

ขิง
  1. ขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ
    ขิง เป็นสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อนและมีกลิ่นฉุน ซึ่งสรรพคุณของขิงนั้นโดดเด่นในการช่วยขับลม แก้ท้องอืด จุกเสียด แน่นเฟ้อ เนื่องจากสารสำคัญที่อยู่ในน้ำมันหอมระเหยของขิง จะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้
  1. ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน
  2. ลดอาการปวดไมเกรน
  3. ลดอาการปวดและอักเสบในผู้ที่เป็นโรคข้อเสื่อม โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
  4. ลดการปวดกล้ามเนื้อ
  5. ต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ เสริมภูมิคุ้มกันโรค
  6. ลดไข้
  7. ขับเสมหะ

ประโยชน์ของขิงส่วนใหญ่มาจากสารต้านอนุมูลอิสระ (anti–oxidant) และสารต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) หลายชนิดที่มีอยู่ในขิงนั่นเอง

สมุนไพรไทยของเราที่อยู่คู่ครัวมาตลอดนั้น เป็นภูมิปัญญาไทยที่ส่งต่อมารุ่นสู่รุ่นมีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานและบรรเทาอาการต่างๆได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งช่วยบำรุง รักษา ฟื้นฟู แต่การเสริมภูมิคุ้มกันก็ยังต้องมีปัจจัยอื่นๆร่วมด้วย เพราะนอกจากการทานสมุนไพรเสริมภูมิแล้ว การดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อนให้เพียง ลดความเครียด และออกกำลังกาย ก็ยังไม่สิ่งที่ขาดไม่ได้และสำคัญไม่แพ้กัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *