ข้าวไรซ์เบอร์รี่ เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ข้าวหอมที่เป็นการผสมผสานข้ามสายพันธุ์ ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิลกับข้าวดอกมะลิ 105 เมื่อปลูกขึ้นมาแล้วจึงมีลักษณะแบบสีม่วงดำ เมล็ดเรียวยาวสวย ออกผิวมันวาว เมื่อหุงแล้วจะได้เป็นแบบเมล็ดเต็มที่มีความสวยงาม ออกสีม่วง และน่ารับประทานไปด้วยความมันวาวของตัวเมล็ด โดยให้รสชาติที่หอมอร่อยไม่แพ้กับข้าวหอมมะลิทั่วไป ที่สำคัญคือข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นสายพันธุ์ที่มีราคาค่อนข้างสูง เพราะมีงานวิจัยพบว่าภายในเมล็ดข้าวจะอุดมไปด้วยทั้งวิตามินและแร่ธาตุ พร้อมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารที่สูงมาก จึงเป็นที่นิยมของเหล่าสายคลีนกับผู้รักสุขภาพที่จะนำมารับประทานร่วมกับเมนูคลีนต่างๆ ได้อย่างอร่อยลงตัว
ข้าวไรซ์เบอร์รี่ มีดีอย่างไร คนยุคนี้ถึงนิยมทาน
มีงานวิจัยพบว่าข้าวไรซ์เบอร์รี่จะอุดมไปด้วยสารแอนโทไซยานิน ที่ถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง เพราะสามารถต้านได้มากกว่าวิตามินซีกับวิตามินอีถึง 2 เท่า พร้อมอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น โอเมก้า 3 , เบต้าแคโรทีน, แกมมาโอไรซานอล, เหล็ก และสังกะสี เป็นต้น นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยโพลีฟีนอลที่ถือว่าเป็นตัวทำลายฤทธิ์ของสารอนุมูลอิสระพร้อมต้านเชื้อมะเร็ง ลดการเจริญเติบโตของเชื้อมะเร็งตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยกระตุ้นทำให้เลือดหมุนเวียนดี จึงลดปัญหาเรื่องโรคหัวใจและทำให้เลือดหล่อเลี้ยงร่างกายได้อย่างสมดุล ลดภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ภายในข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังมีไฟเบอร์สูง จึงช่วยในด้านการลดคลอเรสเตอรอลในเส้นเลือดและยังช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ด้วยสารแกมมาโอไรซานอล ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จึงทำให้ข้าวไรซ์เบอรี่ถูกแนะนำในกลุ่มของผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจ, โรคเบาหวาน และโรคหลอดเลือด เพราะสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัย
ส่วนทางด้านความงาม ข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังมีประโยชน์ในด้านการสร้างคอลลาเจน กลับคืนสู่ชั้นผิวและกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเองอย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยในด้านการลดเลือนริ้วรอยและช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อผิวหนังได้เป็นอย่างดี สำหรับเด็กๆ ก็สามารถรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่และได้ประโยชน์เต็มที่เพราะช่วยบำรุงสมอง มีโอเมก้า 3 และวิตามินบีที่จะกระตุ้นให้ระบบประสาททำงานได้ดีกว่าเดิม สำหรับผู้สูงอายุก็รับประทานได้อย่างไม่น่ากังวล เพราะย่อยง่ายและยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตให้ทำงานได้ดีขึ้น ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยบำรุงเลือดให้มีความเข้มข้นมากขึ้น สำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักก็สามารถรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ได้ เพราะด้วยความที่อุดมไปด้วยใยอาหารสูง จึงทำให้อิ่มท้องนาน ไม่รู้สึกหิวง่าย และมีปริมาณน้ำตาลภายในเมล็ดต่ำกว่าการรับประทานข้าวขาวทั่วไป
สารอาหารใน ข้าวไรซ์เบอร์รี่
ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวที่เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 ทำให้เป็นข้าวที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางสารอาหารมากมาย ยกตัวอย่างเช่น…
โอเมกา 3
มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง ตับ และระบบประสาท ช่วยลดระดับคอเรสเตอรอล และช่วยลดอาการของโรคซึมเศร้าได้อีกด้วย
มีธาตุเหล็กสูง
ธาตุเหล็ก เป็นส่วนประกอบที่สำคัญร่างกาย ช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่จะนำออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ป้องกันอาการโลหิตจาง ช่วยกำจัดโลหะหนักที่เป็นพิษต่อร่างกาย ป้องกันอาการอ่อนเพลีย ช่วยให้เซลล์สมองเจริญเติบโตได้ดี
วิตามินอี
เป็นวิตามินที่ละลายได้ดีในไขมัน สำคัญต่อร่างกายอย่างมาก ป้องกันการแตกของเม็ดเลือดแดง ป้องกันการเกิดลิ่มเลือกและการอุดตันของเส้นเลือด เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้ผิวพรรณสดใส เปล่งปลั่ง
วิตามินบี 1
เป็นวิตามินชนิดละลายในน้ำ ช่วยเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา และช่วยไม่ให้รู้สึกอ่อนล้า หมดแรงง่าย
เบต้าเคโรทีน
ช่วยบำรุงสายตา ป้องกันมะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกายให้แข็งแรง ร่างกายของมนุษย์เราสามารถเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนไปเป็นวิตามินเอได้ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ และเป็นสารช่วยต้านอนุมูลอิสระด้วย
มีใยอาหารสูง
ในข้าวไซเบอร์รี่มีใยอาหารสูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาล เสริมภูมิต้านทาน ลดไขมันในเส้นเลือด และมีประโยชน์ต่อการทำงานของช่องทางเดินอาหารส่วนต้น ช่วยในการขับถ่าย ป้องกันมะเร็งลำไส้ได้ด้วยค่ะ
ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าข้าวที่เรากินจะมีประโยชน์ต่อร่างกายได้มากมายขนาดนี้ รู้แบบนี้แล้วเราก็อย่าลืมเลือกกินข้างไรซ์เบอร์รี่กันนะคะ เมื่อเราเลือกกินอาหารดี ๆ ร่างกายเราจะพได้ตอบแทนด้วยการแข็งแรงและสุขภาพดีให้เราไงล่ะ