โรคหลอดเลือดสมอง

Stroke หรือ โรคหลอดเลือดสมอง ตีบ แตก ตัน ถือเป็นโรคร้ายในลำดับต้นๆ ที่อันตรายถึงชีวิตประชาชนไทย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจนถึงปัจจุบัน Stroke เกิดจากการที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง เนื่องจากเกิดการอุดตัน หรือ แตกของเส้นเลือดที่เป็นทางเดินของเลือดไปเลี้ยงสมองส่วนต่างๆ ไม่ใช่แค่ผู้สูงอายุ แต่รวมถึงกลุ่มคนวัยทำงาน หรือวัยรุ่นก็อาจมีความเสี่ยงเกิด Stroke ได้ด้วยสาเหตุที่ต่างกัน โดยเฉพาะในช่วงอายุ 18-50 ปี มาเช็คสัญญาณเตือนเพื่อป้องกันและสามารถเข้ารักษาอาการได้ทัน ดังนี้

สัญญาณเตือนอาการ Stroke โรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง

การสังเกตอาการ BEFAST ของตนเองหรือคนใกล้ชิด เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ได้แก่

ปัจจัยเสี่ยงของอาการ Stroke โรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง

รู้ก่อนสาย เข้าตรวจวินิจฉัยอาการ Stroke โรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง

การตรวจวินิจฉัยเพื่อให้ทราบโอกาสเสี่ยงต่อโรคสมองขาดเลือด สามารถทำได้หลายวิธี นอกจากการตรวจเม็ดเลือดแดง เพื่อดูความเข้มข้นของเลือด การตรวจการอักเสบของหลอดเลือด การตรวจระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดแล้ว อาจทำการตรวจเอกซเรย์สมองเพิ่มเติม ในรายที่ผลการตรวจเลือดมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองขาดเลือด ได้แก่

เตรียมความพร้อมด้วย Magic Number กับการรักษา Stroke โรคหลอดเลือดสมอง

โรคหลอดเลือดสมอง

สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ Magic Number 4.5 หมายถึง ถ้ามาถึงโรงพยาบาลภายในช่วงเวลา 4.5 ชม. นับตั้งแต่สังเกตเห็นอาการ แพทย์จะสามารถให้ยาละลายลิ่มเลือดหรือ rtPA ทางหลอดเลือดดำ ซึ่งในคนไข้รายที่มีภาวะสมองขาดเลือดและไม่พบภาวะเลือดออกในสมอง จะช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ทัน แต่สำหรับรายที่หากมาช้าเกิน 4.5 ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 24 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ และวินิจฉัยว่าเซลล์สมองยังไม่ตายจากการอุดตันของลิ่มเลือดขนาดใหญ่ การให้ยา rtPA อาจไม่ทำให้อาการดีขึ้น ต้องอาศัยการรักษาโดยใส่สายสวนหลอดเลือดสมองเข้าช่วย โดยแพทย์จะพิจารณาว่าจะใช้วิธีการดูด หรือนำลวด หรือตะแกรงเข้าไปเกี่ยวลิ่มเลือดที่อุดตัน ฉะนั้นจึงมีความเสี่ยงเกิดขึ้นได้

หากผู้ป่วยต้องได้รับการผ่าตัดต้องทำด้วยความระมัดระวังโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อวางแผนการรักษาให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกับผู้ป่วยมากที่สุด นอกจากการให้ยาละลายลิ่มเลือด (fibrinolytic agents or rt-PA) การทำหัตถการใส่สายสวนเพื่อเปิดหลอดเลือดสมอง (endovascular thrombectomy) ยังมีการใช้เทคโนโลยีเอ็มอาร์ไอ (MRI) เพื่อสแกนเนื้อสมอง จะสามารถเห็นความเสียหายได้ชัดเจน ซึ่งจะทำให้ได้ข้อสรุปการรักษาที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพ แพทย์จะใช้เครื่อง Bi-Plane DSA (ไบเพลน ดีเอสเอ) เครื่องตรวจวินิจฉัยและรักษาโรคหลอดเลือด ช่วยในการดึงลิ่มเลือดอุดตัน แบบ Minimally Invasive Procedure โดยการใส่สายสวนเพื่อไปเปิดหลอดเลือดสมอง (ไม่ต้องเปิดกะโหลกศีรษะ) แต่จะมีแผลเล็กที่ขาหนีบตรงบริเวณที่ใส่สายสวน และเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุดกับผู้ป่วยแต่ละราย

One Response

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *