สนามบินชางงี ถ้าใครเคยไปเที่ยวสิงคโปร์ ก็คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี ซึ่งได้รับคัดเลือกว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกติดต่อกันหลายปีเลยและวันนี้ พี่เห็ด มัชรูมทราเวล ก็จะพาไปรู้จักกับ สนามบินสิงคโปร์ แห่งนี้ รวมถึงพื้นที่ต่างๆ ภายในสนามบิน ว่าทำไมถึงได้ชื่อว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลกกัน
ท่าอากาศยานชางงี สิงคโปร์ หรือ Singapore Changi Airport (รหัสสนามบิน SIN) ที่โดยทั่วไปจะเรียกกันว่า สนามบินชางงี ตั้งอยู่ในเขตชางงี เป็นสนามบินนานาชาติหลักของประเทศสิงคโปร์ เปิดทำการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ.2524 เป็นสนามบินขนาดใหญ่ที่พื้นที่ภายในครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สำหรับผู้โดยสาร ไม่ว่าจะบินมา เที่ยวสิงคโปร์ หรือมาแวะเปลี่ยนเครื่อง โดยมีหน่วยงานบริหารงานสนามบินชางงีในปัจจุบัน คือ Changi Airport Group เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลสิงคโปร์ ถูกจัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อบริหารสนามบินแห่งนี้มาตั้งแต่ปี 2009 โดยยึดหลักการคำนึงถึงผลประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับสูงสุด
รางวัลที่ สนามบินชางงี ได้รับหลายปีซ้อน
สนามบินชางงี ได้รับรางวัล “สนามบินที่ดีที่สุดในโลก” ติดต่อกันหลายปีจากการจัดอันดับของ Skytrax ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านการบินของสหราชอาณาจักร และล่าสุดในปี 2021 ก็ยังคงติดอันดับ Top 10 โดยได้อันดับที่ 3 และนอกจากนี้ สนามบินสิงคโปร์ แห่งนี้ก็ยังได้รับรางวัลอื่นๆ รวมกว่า 500 รางวัล ตั้งแต่เปิดทำการมา ซึ่งการจะได้รับรางวัลเป็นสนามบินที่ดีที่สุดนั้นก็มีการใช้เกณฑ์พิจารณาหลายอย่าง ทั้งในด้านของความปลอดภัย ความสะดวก ความล่าช้า การบริหาร หรือแม้แต่จำนวนผู้โดยสารที่รับในแต่ละวัน ทีนี้เรามาดูสิ่งอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ของสนามบินแห่งนี้กัน !
สิ่งอำนวยความสะดวกใน สนามบินชางงี
1.มีอาคารผู้โดยสาร หรือ Terminal ทั้งหมด 4 อาคาร รองรับผู้โดยสารกว่า 65.6 ล้านคน ต่อปี และ สนามบินชางงี มีแผนที่จะเปิด Terminal 5 เพิ่มเติมประมาณปี 2030 เพื่อรองรับผู้โดยสารให้ได้ถึง 135 ล้านคนต่อปี
2.การเดินทางระหว่างอาคารผู้โดยสาร 1, 2, 3 และ 4 จะมีรถไฟ Skytrain และรถชัทเทิลบัสให้บริการฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
3.สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และมีจุดบริการต่างๆ เพื่อให้ผู้โดยสารได้พักผ่อนหย่อนใจ อย่างเช่น
– ห้องน้ำสะอาด เพียงพอต่อจำนวนผู้โดยสาร และสามารถมองเห็นวิวของรันเวย์
– โรงภาพยนตร์ ซึ่งเปิดให้เข้าชมฟรีตลอด 24 ชั่วโมง จุดบริการที่ Terminal 2 และ Terminal 3
– สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ตั้งอยู่ที่ Terminal 1 โดยอยู่ในส่วนของโรงแรม Aerotel Airport Transit Hotel เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงเที่ยงคืน
– ห้องเล่นเกมสาธารณะฟรี บริการที่ ชั้น 3 Terminal 2 เหมาะสำหรับคนที่ต้องรอขึ้นเครื่องบินเป็นเวลานานๆ เปิดให้เล่นฟรี 24 ชั่วโมง
– บริการอินเทอร์เน็ตฟรี โดยมีการติดตั้งคอมพิวเตอร์ให้บริการในทุกอาคารผู้โดยสาร หรือสามารถใช้อินเตอร์เน็ตไร้สายฟรี (Wi-Fi) ได้ในมือถือ
– บริการเก้าอี้นวดฟรี เก้าอี้นวดไฟฟ้าจะมีกระจายอยู่ทุกจุดของสนามบินในทุกอาคาร เพื่อผ่อนคลายการปวดเมื่อยจากการเดินทางให้กับผู้โดยสาร
– มีร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) ที่เป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกและแบรนด์ของสิงคโปร์ให้เลือกช้อปปิ้งอย่างจุใจ
– มีสวนดอกไม้และจุดพักผ่อน ให้ผู้โดยสารใช้บริการฟรี ได้แก่
- สวนผีเสื้อ อาคารผู้โดยสาร Terminal 3
- สวนดอกกล้วยไม้ และสวนดอกทานตะวัน อาคารผู้โดยสารขาออก Terminal 2
- สวนกระบองเพชร บริเวณดาดฟ้าอาคารผู้โดยสารขาออก Terminal 1 สวนนี้รวมเอากระบองเพชรสายพันธุ์ต่างๆ มาจัดแสดงไว้
- โซนนั่งเล่นที่มีร้านอาหารที่ Terminal 4 โซนนี้จะมีการตกแต่งพิเศษเป็นรูปตึกแถวหลากสีซึ่งเป็นหนึ่งในที่เที่ยวของสิงคโปร์ รวมถึงมีจอที่จะเปิดการแสดงให้ชมเป็นรอบๆ อีกด้วย
4. อาคาร Jewel Changi Airport อาคารใหม่สุดทันสมัยในรูปแบบศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ภายในตกแต่งให้มีความเป็นธรรมชาติและมีน้ำตกในร่มที่สูงที่สุดในโลกด้วยความสูงกว่า 40 เมตร มีการแสดงแสงสีเสียงให้ชมเป็นรอบตลอดทั้งวัน รวมถึงมีเทคโนโลยีและความทันสมัยต่างๆ มีร้านค้าแบรนด์ชั้นนำและร้านอาหารมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถมาใช้บริการที่นี่ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีตั๋วเครื่องบิน อาคารนี้ตั้งอยู่ตรงกลางเป็นจุดเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสาร 1, 2 และ 3 อีกทั้งยังให้บริการตู้ Early Check-in และ Drop-Bag Automation กับผู้โดยสารเพื่อทำการเช็คอินและรับ Boarding Pass จากนั้นถ้ามีเวลาเหลือก็สามารถไปพักผ่อนเดินเล่นและช้อปปิ้งได้ชิลๆ
5. บริการนำเที่ยวแบบซิตี้ทัวร์ฟรี หากใครเป็นผู้โดยสารต่อเครื่องที่มีเวลาในการรอขึ้นเครื่องมากกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป สามารถติดต่อขอใช้บริการพา เที่ยวสิงคโปร์ ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทางสนามบินจะมีรถรับ-ส่งบริการพาไปยังจุดท่องเที่ยวยอดฮิตในสิงคโปร์ เช่น Merlion Park, Gardens by the Bay, Little India และอีกหลายๆ แห่ง แล้วพากลับมาขึ้นเครื่องที่สนามบิน
6. บริการ Self Check-in ผู้โดยสารสามารถทำการเช็คอินด้วยตัวเองได้แบบอัตโนมัติ ทั้งการออก Boarding Pass และแท็กติดกระเป๋าได้สะดวกรวดเร็ว ภายใต้แนวคิดการเดินทางที่รวดเร็วและราบรื่น ที่อาคารผู้โดยสาร 4 ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนธันวาคม 2017
7. จัดแสดงงานศิลปะและประติมากรรม ภายในสนามบินชางงีมีการจัดแสดงงานศิลปะและประติมากรรมกระจายอยู่ทั่วอาคารผู้โดยสารทั้ง 4 แห่ง จากนิทรรศการ Kinetic Rain ที่น่าตื่นตะลึงที่อาคารผู้โดยสาร 1 สู่นกยักษ์ที่อาคารผู้โดยสาร 4 คุณสามารถเพลิดเพลินกับบริเวณพื้นที่ที่สวยงามและเต็มไปด้วยจินตนาการเหล่านี้ได้ในบริเวณสนามบิน
8. การเดินทางจาก สนามบินชางงี เข้าตัวเมืองสิงคโปร์ วิธีที่สะดวกและรวดเร็วก็คือการใช้บริการ รถไฟ MRT (Mass Rail Transit) เชื่อมต่อกับสถานีรถไฟต่างๆ ในเมือง
และนี่ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสะดวกสบายของ สนามบินชางงี ที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสนามบินที่ดีที่สุดในโลก การมาเยือนสนามบินแห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเดินทางเพื่อมารอเวลาขึ้นเครื่องเท่านั้น แต่ยังเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่พักผ่อน และห้างสรรพสินค้า เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับนักท่องเที่ยวในทุกรูปแบบระหว่างรอการเดินทางอีกด้วย