วิธีไล่นกพิราบ

วิธีไล่นกพิราบ เชื่อว่าหลายคนกำลังประสบปัญหา นกพิราบที่มักมาก่อปัญหา ไม่ว่าจะส่งเสียงดัง หรือถ่ายมูลบริเวณระเบียง และหลังคาบ้าน ซึ่งสร้างความสกปรก ส่งกลิ่นเหม็น และความรำคาญใจแก่เจ้าของบ้านเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ทั้งตัวและมูลของนกพิราบยังเป็นพาหะนำโรคต่าง ๆ การจัดการนกพิราบจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรปล่อยปละละเลย และเราก็ควรวิธีไล่นกพิราบเพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจตามมาได้ สาระน่ารู้

โรคอันตรายจากนกพิราบ

โรคที่มากับนกพิราบนั้นมาจากเชื้อราที่อยู่ในมูลของนกพิราบ คือ คริปโตคอคคัส ส่วนใหญ่ติดเชื้อชนิดนี้จากการสูดเอาสปอร์ของเชื้อราที่ลอยปะปนอยู่ในอากาศและมูลนกพิราบ จึงทำให้เป็นที่มาของโรคต่าง ๆ ดังนี้

วิธีไล่นกพิราบอย่างไรโดยไม่ต้องทำบาป

วิธีไล่นกพิราบ โดยไม่ต้องวางยาเบื่อหรือยิงนก มีหลายวิธีดังนี้

1. แขวนกระดิ่งหรือโมบาย

เมื่อเกิดลมพัด เสียงของกระดิ่งจะดังขึ้นและโมบายจะเคลื่อนไหว จึงทำให้นกพิราบตกใจ และไม่กล้าบินเข้ามาเกาะบริเวณนี้อีก

วิธีไล่นกพิราบ

2. ขึงลวดบนคานเหล็ก

นำลวดเส้นเล็ก ๆ มาขึงเอาไว้เหนือคานเหล็กประมาณ 3 นิ้ว เส้นลวดนั้นจะกั้นไม่ให้นกพิราบบินลงมาเกาะได้ สุดท้ายนกพิราบก็จะบินหนีไป

3. แขวนแผ่นซีดี

นำแผ่นซีดีที่ไม่ใช้แล้วมาร้อยเข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปแขวนที่ระเบียงหรือหลังคา เมื่อแผ่นซีดีกระทบกับแสงแดด จะทำให้แผ่นซีดีเกิดแสงสะท้อนวิบวับขึ้น ซึ่งสามารถไล่นกพิราบไม่ให้มาบริเวณนี้ได้

4. ติดตาข่ายพีวีซี

วิธีนี้เป็นวิธีไล่นกพิราบที่ผู้อยู่อาศัยในคอนโดฯ นิยมใช้กัน คือ นำตาข่ายพีวีซีขึงปิดช่องว่างระหว่างเพดานกับพื้นระเบียงให้มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้นกพิราบบินเข้ามาเกาะหรือทำรังบริเวณระเบียง อีกทั้งยังไม่บดบังทัศนียภาพนอกระเบียงอีกด้วย

5. กำจัดแหล่งอาหาร

วิธีไล่นกพิราบ โดยที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ในการไล่นก คือ หมั่นทำความสะอาดบริเวณบ้าน อย่าให้มีเศษอาหารล่อนกพิราบให้มาหา เพราะเมื่อบริเวณบ้านไม่มีเศษอาหารหรือซากขนมปังแล้ว นกพิราบก็จะเปลี่ยนไปหาแหล่งอาหารที่อื่นแทน

6. ปูกระดาษหนังสือพิมพ์

วิธีนี้เป็นวิธีไล่นกพิราบที่สามารถทำเองได้ง่าย ๆ เพียงนำกระดาษหนังสือพิมพ์มาปูบริเวณที่นกพิราบชอบมาเกาะหรือมาถ่ายมูล เมื่อนกพิราบบินมาเหยียบกระดาษหนังสือพิมพ์แล้ว ก็จะเกิดเสียงที่เนื้อกระดาษ ทำให้นกพิราบตกใจ บินจากไป และไม่กล้ากลับมาอีก

7. เข็มขัดรัดสายไฟพลาสติก

วิธีไล่นกพิราบนี้เหมาะสำหรับบ้านที่นกพิราบชอบมาเกาะที่ระเบียง โดยเข็มขัดรัดสายไฟจะมีลักษณะเป็นพลาสติกเส้นเล็ก ๆ ซึ่งสามารถไล่นกพิราบได้ด้วยการนำไปรัดกับราวระเบียงให้ปลายชี้ติดกัน แต่ไม่ต้องตัดส่วนปลายที่เหลือออก เพราะส่วนที่ชี้ออกมานั้น จะทำหน้าที่กันไม่ให้นกพิราบมาเกาะ ทั้งนี้ควรรัดถี่ ๆ เพื่อไม่ให้มีช่องว่างจนนกสามารถบินลงมาเกาะได้

8. ฉีดน้ำไล่

ฉีดน้ำไล่ทุกครั้งที่นกพิราบบินลงมาเกาะ ถึงแม้ว่าวิธีไล่นกพิราบนี้อาจไม่ได้ผลตั้งแต่ครั้งแรก เพราะช่วงแรก ๆ นกพิราบอาจจะยังไม่กลัว แต่เชื่อว่าหากหมั่นทำบ่อย ๆ เป็นประจำ นกพิราบอาจจะเกิดความกลัว และไม่อยากบินมาอีก

9.นกเหยี่ยว

สัตว์นักล่าที่เป็นศัตรูตามธรรมชาติของนกพิราบ และสามารถทำให้นกพิราบกลัวได้คงหนีไม่พ้นนกเหยี่ยว และงู ซึ่งการไล่นกพิราบด้วยวิธีนี้เพียงแค่นำนกเหยี่ยวปลอม หรืองูปลอมไปแขวนไว้บริเวณระเบียงที่นกพิราบชอบมาเกาะ เมื่อนกพิราบเห็นเหยี่ยว หรืองูก็จะกลัวไม่กล้าบินมาเกาะ แต่วิธีนี้ในระยะยาวจะไม่ค่อยเห็นผล เพราะเมื่อนกพิราบเห็นบ่อยก็จะชิน แล้วไม่กลัวอีกต่อไป

10. ลูกเหม็น 

นกพิราบนั้นมีเยื่อบุหลอดลมที่ค่อนข้างบอบบาง และไม่สามารถทนกลิ่นบางชนิด ซึ่งกลิ่นของลูกเหม็นนั้นถือว่าเป็นหนึ่งกลิ่นที่นกพิราบไม่ชอบ รวมไปถึงกลิ่นเหม็นอื่นๆ อย่างเช่น การบูร และพิมเสน การไล่นกด้วยวิธีนี้เพียงแค่นำสิ่งของที่กลิ่นซึ่งนกพิราบไม่ขอบมาวางไว้ในบริเวณที่ไม่ต้องการให้พวกมันเข้ามาเมื่อนกพิราบได้กลิ่นเหม็นจากลูกเหม็น การบูร พิมเสน ก็จะไม่บินมารบกวนอีก

11. ต้นไม้มีหนาม

การใช้ต้นไม้มีหนามต่างๆ มาไล่นกพิราบนั้นใช้หลักการที่คล้ายๆ กับการใช้ตะปูตอกไม้อัด แต่การใช้ต้นไม้ที่มีหนามอย่างเช่นต้นกระบองเพชร มาวางไว้ในบริเวณระเบียงที่นกพิราบชอบมาเกาะจะดูสวยงามกว่า เพราะว่าต้นกระบองเพชรถือว่าเป็นไม้ประดับที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เราอาจจะจัดสวนกระบองเพชรสวยๆ บริเวณระเบียงที่นกพิราบชอบมาเกาะ เพียงเท่านี้ก็สามารถไล่นกพิราบได้ และได้สวนกระบองเพชรเป็นของแถมด้วย

12. เลี้ยงสัตว์

สัตว์เลี้ยงที่สามารถไล่นกพิราบได้เป็นอย่างดีคงไม่พ้นสุนัข และแมว เพราะว่าสัตว์ทั้งสองชนิดนี้ยังคงมีสัญชาติญาณนักล่าอยู่ในตัว และสิ่งที่ทั้งสุนัข และแมวชอบมากๆ คือการวิ่งไล่นก ดังนั้นการที่เราปล่อยให้สัตว์เลี้ยงของเราอยู่ในบริเวณที่นกพิราบชอบมาเกาะอย่างเช่นระเบียงก็สามารถไล่นกพิราบอย่างได้ผล รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงของเราจะได้ออกกำลังกายด้วย

จากสถิติการติดโรคจากนกพิราบ ทำให้รู้ว่านกพิราบอันตรายกว่าที่คิด เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้นกมาสร้างความสกปรกและนำโรคมาให้ โดยเฉพาะโรคอันตรายจากมูลของนกพิราบ ทั้งนี้สามารถเลือกใช้วิธีไล่นกพิราบที่ไม่รุนแรงในข้างต้นได้ตามความเหมาะสม ซึ่งดีกว่าการกำจัดนกพิราบด้วยวิธีที่รุนแรงจนทำให้นกพิราบตาย เพราะนอกจากจะไม่เป็นการทำร้ายสัตว์แล้ว ซากนกพิราบยังเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายของเชื้อโรคจากนกพิราบอีกด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *