ในเวลานี้ตลาด รถยนต์ไฟฟ้า ชนิดแบตเตอรี่ (EV) ของเมืองไทย กำลังได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทย ด้วยยอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญพร้อมกับการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ ที่ค่ายรถต่างทยอยแนะนำตัวในเมืองไทย โดยในวันนี้้รามาดู ข้อดีของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าหรือ EV ทำไมถึงน่าใช้ และได้รับความนิยมสูงในเวลานี้
เคยสังเกตกันไหมว่า รถยนต์ทั่วไปที่คนไทยเราใช้ขับขี่เต็มท้องถนนนั้น ใช้พลังงานเชื้อเพลิงมากขนาดไหน? ข้อมูลจากธุรกิจพลังงาน ได้เปิดเผยถึงภาพรวมการใช้น้ำมันในปี 63 ที่ผ่านมา แม้ว่าภาพรวมการใช้น้ำมันเฉลี่ยต่อวันจะลดน้อยลงเพราะพฤติกรรมการใช้รถยนต์ที่เปลี่ยนไป แต่ประเทศไทยก็ยังใช้น้ำมันรวมทุกประเภท (เว้นเหล่าก๊าซธรรมชาติ) สูงถึง 137.9 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งมีทีท่าว่าจะเพิ่มขึ้นอีกหลังจากที่คลายล็อกดาวน์
ซึ่งอย่างที่พวกเราต่างรู้ตระหนักกันดีถึงปัญหามลภาวะและโลกร้อนที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น ไหนจะปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 ที่บั่นทอนสุขภาพในระยะยาว ซึ่งอีกหนึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดมลภาวะเหล่านี้ก็คือฝุ่นควันที่เกิดจากท่อไอเสียรถยนต์เหล่านี้นี่เอง ดังนั้น บทความนี้เราจะพามาทำความรู้จักกับ ‘รถยนต์พลังงานไฟฟ้า’ หรือ ‘EV’ ว่าคืออะไร แล้วทำไมถึงเป็นทางเลือกสำคัญแห่งยานยนต์อนาคตกัน
รถยนต์ไฟฟ้า EV คืออะไร?
รถ EV คืออะไร? รถ EV คือ รถไม่ใช้น้ำมัน ย่อมาจากคำว่า Electric Vehicle แปลตรงตัวคือ รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า แบบ 100% และมีคุณสมบัติทุกอย่างที่สร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ปัญหาหลักของรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน สามารถแทนที่รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์เผาไหม้แบบสันดาปภายใน (ICE หรือ Internal Combustion Engine) ที่เราขับกันอยู่ทุกวันนี้ได้ ตั้งแต่เรื่องของชิ้นส่วนรถยนต์ ประสิทธิภาพของยานยนต์ ค่าใช้จ่าย และประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม
- ชิ้นส่วนที่ต้องการการบำรุงรักษาของรถยนต์ไฟฟ้า EV มีน้อยกว่ารถยนต์ไฟฟ้า EV มีชิ้นส่วนสำคัญต่างๆ น้อยกว่ารถยนต์ทั่วไป เช่น ไม่มีระบบเครื่องยนต์-ชุดเกียร์ และส่วนที่ทำหน้าที่หลักในการขับเคลื่อนรถยนต์ก็ใช้เพียงแค่แบตเตอร์รี่ อุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า และมอเตอร์ไฟฟ้าเท่านั้น ทำให้การดูแล ซ่อมแซมไม่สร้างภาระหนักเท่ารถยนต์แบบเดิม ไม่ว่าจะน้ำมันเครื่องหรือน้ำมันเกียร์ก็ไม่ต้องมาคอยเปลี่ยน แถมการทำงานไม่ซับซ้อน ซ่อมง่าย ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย
- ประสบการณ์การขับขี่ที่เงียบและเหนือระดับกว่าหากคุณเคยลองสัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้า EV สักครั้งจะต้องติดใจ เพราะว่าให้ประสบการณ์การขับที่เหนือระดับจริง ทั้งในเรื่องของความเงียบจากการที่ไม่มีเครื่องยนต์คอยทำงานเผาไหม้เสียงดังหรือเครื่องทำงานกระชาก สามารถควบคุมอัตราการเร่งได้ตามที่ใจต้องการ ขับลุยน้ำได้ในกรณีฉุกเฉินไม่ก่อให้เกิดปัญหา เพียงแต่ต้องศึกษาข้อควรระวังให้ดีว่า รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) ในรุ่นนั้นๆ มีระบบที่เรียกว่า Hydrolock หรือไม่
- ในระยะยาวจะประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่านอกจากจะประหยัดในเรื่องของค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแล-ซ่อมแซมส่วนต่างๆ แล้ว ค่าใช้จ่ายพวกพลังงานขับเคลื่อนรถยนต์ก็ถูกกว่าหลายเท่า ซึ่งมีผู้ใช้งานรถยนต์ EV เคยออกมาเปิดเผยว่า สามารถ ประหยัดค่าใช้จ่ายต่อเดือนไปได้หลายพันเลยทีเดียว ซึ่งในจุดนี้ ทำให้ใครที่เลือกรถยนต์แบบสันดาป เพราะผ่อนต่อเดือนถูกอาจจะต้องคิดใหม่ หากเทียบค่าใช้จ่ายบำรุงดูแลและค่าพลังงานแล้วรถยนต์ไฟฟ้าอาจถูกกว่าก็เป็นได้ แถมจะชาร์จแบตเตอร์รี่จากตามสถานีชาร์จหรือที่บ้าน เพื่อความสะดวกสบายและประหยัดเวลาก็ได้เช่นกัน นับเป็นทางเลือกยานยนต์ที่น่าสนใจมากที่เดียว
- ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมต่อไป “รักษ์โลก” และ “ดูแลสิ่งแวดล้อม” จะไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องลงมือทำ จะเห็นได้จากนโยบายหลากหลายประเทศที่เริ่มออกมารองรับ การใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV มากขึ้น รวมถึงไทยเองที่มีนโยบายภาษีแบตเตอร์รี่ต่ำกว่า ลดภาษีสรรพสามิต ส่งเสริมการลงทุนแก่ผู้ผลิต ฯลฯ เพราะถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกยั่งยืน ที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี และสามารถเลี่ยงการใช้พลังงานสิ้นเปลือง เน้นใช้พลังงานสะอาดอย่างพลังงานไฟฟ้า ไม่ก่อให้เกิดการเผาไหม้จนส่งผลกระทบต่อมลภาวะ
แนวโน้มของ รถยนต์ไฟฟ้า EV ในไทย
หลังจากทำความรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้า EV และประเภทของรถยนต์ไฟฟ้ามาคร่าวๆ แล้ว มาดูกันดีกว่า ว่า แนวโน้มของ ‘รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในไทย’ จะเป็นยังไงกันต่อไป
- ความต้องการของผู้บริโภคจากข้อได้เปรียบต่างๆ ที่เรานำมาฝากข้างต้น คงจะทำให้ผู้ประกอบการหลายท่านที่ได้อ่านอยากลองสัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้า EV บ้างไม่มากก็น้อย ผู้บริโภคที่ต้องใช้รถใช้ถนนเองก็เหมือนกัน สอดคล้องกับสถิติของช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตลาดรถพลังงานไฟฟ้ามีการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด ทั่วโลกสร้างยอดขายได้มากกว่า 3 ล้านคัน ในปี 2020 แม้ตลาดรถยนต์จะหดตัว จากผลกระทบของโควิด-19 บางคนอาจจะคิดในใจว่า ก็ผู้บริโภคชาวต่างชาติมีเงินพอที่จะลองใช้รถ EV กันอยู่แล้ว ลองหันมาดูประเทศที่ GDP หดตัวอย่างไทยสิ ขอบอกเลยว่า อย่าได้ดูถูกตลาดรถ EV เล็กๆ ในประเทศไทยเด็ดขาด เพราะถึงตลาดรถยนต์ใหม่ในไทยจะหดตัวถึง 21% แต่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยกลับขยายตัวถึง 13% นอกจากนี้ ยังมีการคาดการณ์กันเอาไว้ว่า ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอาจขยายตัวสูงถึง 34% ภายในปี 2030 เลยทีเดียว
- ผลกระทบต่อกลุ่มผู้ประกอบการความต้องการของผู้บริโภคเปลี่ยน ผู้ประกอบการก็ต้องเปลี่ยนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับประเทศไทย อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่มีการจ้างงานมากกว่า 8 แสนตำแหน่งทั่วไทย เป็นโซ่การผลิตที่มีกำลังแข็งแกร่ง แนวโน้มต่อไปที่อาจเกิดขึ้นคือ หากผู้ประกอบการเดิมไม่ว่าจะเกี่ยวข้องกับสายผลิตอะไหล่รถยนต์เชื้อเพลิงแบบสันดาปหรือให้บริการเชื้อเพลิงน้ำมัน-ก๊าซธรรมชาติต่างๆ ไม่ยอมปรับตัว อาจได้รับผลกระทบหนักจากความต้องการของผู้บริโภคที่ลดลง ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้า EV อาจได้รับความนิยมสูงขึ้นส่วนกลุ่มที่ยังเรียกได้ว่ายังคงปลอดภัย สบายใจหายห่วงได้อยู่ก็คือ กลุ่มที่ไม่ค่อยได้รับผลกระทบเท่าไหร่ เพราะยังคงผลิตสิ่งที่จำเป็นต้องใช้ในรถยนต์ทุกประเภท เช่น ยางรถยนต์ เบาะ ระบบแบตเตอร์รี่ แผงวงจร ฯลฯในส่วนของพาหนะอื่นๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมายเฉพาะอย่างบริการรถสาธารณะ รถรับจ้าง ฯลฯ ก็อาจจะต้องคอยตามข่าวสาร เพื่อปรับตัวบางอย่างให้ให้เข้ากับอุปสงค์-อุปทานในตลาดต่อไปบ้างหากมีการสร้าง Roadmap ที่ชัดเจน มีการผลักดันจากนโยบายจากรัฐ รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นรูปธรรมก็อาจจะได้เห็นภาพความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันยังมีข้อจำกัดเป็นอุปสรรคบ้างเล็กน้อย เช่น การออกนโยบายภาครัฐยังไม่ชัดเจน ราคาของรถยนต์ไฟฟ้าที่นำเข้ามา ณ ปัจจุบัน แม้จะปลอดภาษี 0% แต่ยังคงสูงเมื่อเทียบกับรถยนต์ที่คนไทยใช้อยู่ในปัจจุบัน การผลิตในประเทศชะลอตัว และจุดให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ยังไม่ทั่วถึง ในส่วนของภาคประชาชนก็ยังไม่มีความตื่นตัวเรื่องรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเท่าใดนัก
แล้วทำไม รถยนต์ไฟฟ้า ถึงน่าใช้
รถยนต์ที่มาพร้อมความเงียบและอัตราเร่งที่ได้ดั่งใจ
- รถยนต์ไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่สู่มอเตอร์เพื่อทำการขับเคลื่อน โดยที่ไม่ได้ใช้เครื่องยนต์สันดาป ภายในจึงไม่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ ทำให้เสียงของการทำงานของรถยนต์ไฟฟ้านั้นเงียบกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงหลายเท่า และสามารถทำให้มีอัตราเร่งเป็นอย่างที่ใจต้องการ เพราะไม่มีขั้นตอนการทดเกียร์อีกต่อไป จึงทำให้สามารถตอบสนองในการขับขี่ได้ตามความต้องการของผู้ขับ
รถยนต์ประหยัดค่าใช้จ่ายและค่าซ่อมบำรุง
- รถยนต์ไฟฟ้าจะช่วยคุณประหยัดเงินค่าน้ำมันและค่าซ่อมบำรุง เพราะใช้พลังงานไฟฟ้ามาแทนที่น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาสูง เช่นเดียวกันกับค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรถยนต์ไฟฟ้า ที่จะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาน้อยกว่า เพราะ ไม่มีเครื่องยนต์ และไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง จึงทำให้การดูแลรักษาเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาในการนำรถยนต์ไปเข้ารับการบำรุงรักษาบ่อยๆ
รถยนต์ที่ไม่ต้องเสียเวลาไปปั๊มน้ำมันเพราะสามารถชาร์จแบตได้ที่บ้าน
- การต่อคิวเพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเป็นปัญหากวนใจหลายคน แต่รถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น สามารถชาร์จแบตได้ที่บ้าน ซึ่งสามารถชาร์จได้ระหว่างที่นอนหลับ เมื่อตื่นเช้ามารถก็จะอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียเวลาที่สถานีบริการน้ำมันอีกต่อไป นอกจากนี้ หลายๆบริษัทยังเดินหน้าขยายธุรกิจในส่วนของการจัดจำหน่ายเครื่องชาร์จไฟฟ้า หรือ wallbox ไปยังลูกค้ากลุ่มผู้ใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริด เพิ่มมากขึ้นหลังจากพบว่าความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนี้มีเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ คอนโดฯ และบ้านพักอาศัย
ด้วยข้อดีเหล่านี้ จึงทำให้รัฐบาลหลายๆประเทศ ต่างพากันสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา นอร์เวย์ จีน เยอรมนี อังกฤษ หรือญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันเป็นประเทศที่มีผู้ใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอยู่และพยายามที่จะผลักดันนโยบายให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากลายเป็นรถยนต์แห่งอนาคตที่ทั้งโลกหันมาใช้ และสำหรับประเทศไทยนั้นก็มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องนี้อยู่บ้างแล้ว เช่น การติดตั้งจุดชาร์จไฟสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เป็นต้น